top of page
woman-having-physiotherapy-session-clinic.jpg

ไคโรแพรคติก

 

ไคโรแพรคติก (Chiropractic Care)

การรักษาโดยแพทย์ไคโรแพรคติก เริ่มตันด้วยการซักประวัติคนไข้และสอบถามอาการปวดเบื้องต้น ตรวจสอบกระดูกสันหลัง โครงสร้างกระดูก ท่าทางการยืน เดิน รวมไปถึงอิริยาบทการเคลื่อนไหวต่างๆเพื่อหาความผิดปกติที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บปวด จากนั้นหมอไคโรแพรกติกจะใช้มือและเครื่องมือในการจัดระบบโครงสร้างกระดูกสันหลังและกระดูกอุ้งเชิงกรานที่ผิดปกติให้กลับคืนสู่สมดุล คนไข้จะได้รับการรักษาบนเตียงแบบพิเศษสำหรับการจัดกระดูกโดยเฉพาะ โดยแพทย์ไคโรแพรคติที่จบเฉพาะด้านและได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะจากกระทรวงสาธารณะสุขให้รักษาคนไข้ได้อย่างถูกกฎหมาย

 

 

สาระความรู้เกี่ยวกับไคโรแพรคติก (Education)

     การจัดกระดูกไคโรแพรกติกมีมากกว่า100ปีแล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มเป็นที่รู้จักในเมืองไทยแค่ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้เอง ส่วนในประเทศอเมริกาและยุโรป การจัดกระดูกไคโรแพรกติกเป็นที่ยอมรับและนิยมเป็นอย่างมาก การจะเป็นแพทย์ไคโรแพรคเตอร์ได้นั้น ส่วนใหญ่แล้วนักศึกษาทางด้านไคโรแพรคติกต้องจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย แล้วเรียนต่อด้านไคโรแพรคติก5ปีการศึกษา ทุกคนจะเรียนเหมือนการแพทย์ทั่ว ๆ ไป คือ ประมาณ 6-8 ปี โดยจะต้องจบวิชาพื้นฐานการศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์ (Pre-Medicine) หรือ (Pre-Chiropractic) ในมหาวิทยาลัย 2 ปี ก่อนจะ Entrance เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Chiropractic โดยจะใช้เวลาการศึกษาอีกประมาณ 4-5 ปี และได้รับดุษฎีบัณฑิตเฉพาะทางเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ไคโรแพรคติก Doctor of Chiropractic (D.C.)  http://www.thailandchiropractic.org/.../chiropractic.../

ส่วนในประเทศไทยเองยังไม่มีมหาลัยที่เปิดสอนไคโรแพรคติก ดังนั้นแพทย์ไคโรแพรคติกจะจบมาจากต่างประเทศทั้งหมด และจะต้องเข้ารับการสอบใบประกอบโรคศิลป์จากกระทรวงสาธารณะสุขเพื่อที่จะสามารถรักษาคนไข้ในเมืองไทยได้อย่าง

ถูกกฏหมาย การเข้ารับรักษากับแพทย์ไคโรแพรคติกจึงถือว่าปลอดภัย

 

สามารถเช็ครายชื่อแพทย์ไคโรแพรคติกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ในเมืองไทยอย่างถูกต้องได้ที่ได้ที่ http://www.thailandchiropractic.org/th/members/

 

กายภาพบำบัด

นักกายภาพจะรักษาโดยการใช้เครื่องมือเช่น อัลตร้าซาวน์ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ประคบร้อน-เย็น เพื่อลดอาการปวด อักเสบและคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง เพิ่มการไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงกดจุดกดเจ็บเพื่อสลายToxicที่สะสมอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งออกแบบท่าออกกำลังกายส่วนบุคคลให้คนไข้กลับไปทำต่อที่บ้านเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกต้อง ป้องกันอาการกลับมาเป็นซ้ำ โดยนักกายภาพวิชาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้องตรวจสอบได้

ข้อดีของการจัดกระดูก

ลดปวด : ช่วยคืนฟังชั่นการทำงานของข้อต่อ กล้ามเนื้อ การไหลเวียนเลือด และระบบประสาทให้กลับมาทำงานได้อย่างมี                  ประสิทธิภาพมากขึ้น

ปรับบุคลิกภาพ: กระจัดกระดูเป็นประจำจะช่วยปรับความสมดุลย์ของร่างกาย เพิ่มความมั่นใจในบุคคลิกภาพ ลดอาการบาด                เจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อ

 

การจัดกระดูกเป็นประจำช่วยส่งเสริมการทำงานในระบบต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้หลับดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

bottom of page